ข้อเปรียบเทียบเกี่ยวกับคนต่างด้าวระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย (1) สิ่งที่รับรองการพำนักอยู่อาศัยและการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  ※เป็นบทความฉบับภาษาไทย ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2563(※5月23日の記事のタイ語版)

ระบบวีซ่าของประเทศไทยมีความแตกต่างจากของประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างมาก โดยประเทศไทยไม่ได้แยกระหว่างวีซ่าที่ออกโดยสถานทูต (กระทรวงการต่างประเทศ) และวีซ่าที่ออกโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (กระทรวงยุติธรรม) เหมือนกับของประเทศญี่ปุ่น

การเดินทางเข้าในประเทศไทยนั้น ด้วยวีซ่าที่ออกโดยสถานทูตไทยในประเทศนั้น ๆ เป็นผู้ออกให้และสามารถอยู่ในประเทศไทยได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดในวีซ่านั้น  และถ้าจะทำงานจำเป็นจะต้องมีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) แยกต่างหาก  สำหรับประเภทวีซ่าที่ได้รับจากสถานทูตไทยเพื่อทำงานเรียกว่า (Non-Immigration B Visa) ดังนั้น อาจจะเรียกได้ว่า Non-Immigration B Visa เป็นวีซ่าทำงาน                  

อย่างไรก็ตาม ที่ประเทศไทยหากถือวีซ่าประเภทนี้ก็ยังไม่สามารถทำงานได้ จำเป็นจะต้องได้รับใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) หลังจากเข้าประเทศไทยด้วย ดังนั้น ผมจึงไม่ใช้คำว่า (วีซ่าทำงาน) เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด

ตามที่พูดมาข้างต้น ที่ประเทศไทยวีซ่าที่ได้รับจากสถานทูตจะเป็นสิ่งที่รับรองการพำนักอยู่อาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย ดังนั้น ถ้าไม่ถือหนังสือเดินทาง (Passport) ก็ไม่สามารถรับรองการพำนักอยู่อาศัยในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายไทยได้ ในทางตรงกันข้ามกรณีของประเทศญี่ปุ่น (บัตรคนต่างด้าว) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองออกให้กับ     คนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นในระยะยาว เป็นสิ่งที่รับรองการพำนักอยู่อาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมายและจำเป็นจะต้องพกบัตรคนต่างด้าวติดตัวตลอดเวลา และหากมีบัตรคนต่างด้าวแล้วไม่จำเป็นจะต้องพกหนังสือเดินทาง (Passport) (ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเข้าเมือง มาตรา 23)

※ สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นระยะสั้นไม่เกิน 90 วัน จะไม่ออกบัตรคนต่างด้าวให้ ดังนั้น สิ่งที่แสดงการรับรอง      การพำนักอยู่อาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วยสติกเกอร์ที่ติดกับหนังสือเดินทาง (Passport)→ จึงจำเป็นจะต้องพกหนังสือเดินทาง (Passport) ติดตัวตลอดเวลา

การพิสูจน์ว่าจะทำงานได้หรือไม่ ในประเทศไทยไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยวีซ่าเพียงอย่างเดียว จะต้องมีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) แยกต่างหาก ตรงกันข้ามกับประเทศญี่ปุ่น ประเภทวีซ่าจะกำหนดว่า สามารถทำงานได้หรือไม่ หรือสามารถทำงานประเภทไหนได้บ้าง โดยหลักสามารถตรวจสอบได้จากบัตรคนต่างด้าวว่าสามารถทำงานได้หรือไม่

โดยหลักแล้วในประเทศไทย หากไม่พกหนังสือเดินทาง (Passport) และใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ก็จะมีความเสี่ยงหากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบถาม แต่ในความเป็นจริงแล้วคนต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยจะพกแต่เพียงสำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) ก็ไม่มีปัญหาอะไร ได้รับการยกเว้นให้ อาจจะเป็นเพราะมีความเสี่ยงในการทำหายหรือถูกลักขโมย

ในทางกลับกันดังกล่าวข้างต้น ประเทศญี่ปุ่นจำเป็นจะต้องพกบัตรคนต่างด้าวติดตัวตลอดเวลา (โดยหลักประเทศญี่ปุ่นไม่มี  คนต่างด้าวที่สามารถทำงานได้โดยไม่มีบัตรคนต่างด้าว)

ในประเทศญี่ปุ่นเวลาเจ้าหน้าที่มาสอบถาม ถ้าไม่สามารถแสดงบัตรคนต่างด้าวได้ เจ้าหน้าที่อาจจะพาไปที่สถานีตำรวจจนกว่าจะตรวจสอบได้ว่ามีวีซ่าอย่างถูกต้องหรือไม่ถึงจะให้กลับบ้านได้ ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องระมัดระวังไว้ (เคยมีลูกค้าของผมคนหนึ่ง ไม่สามารถออกจากสถานีตำรวจได้เกินกว่า 6 ชั่วโมง จนกว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบได้)  

ในความเป็นจริงแล้ว ส่วนใหญ่หากมีเจ้าหน้าที่มาสอบถามขณะไม่ได้พกบัตรคนต่างด้าว มีการจัดการเพียงไม่สามารถกลับบ้านได้จนกว่าจะตรวจสอบได้เท่านั้น แต่ตามกฎหมายกรณีที่ไม่พกบัตรคนต่างด้าว มีการกำหนดโทษปรับไม่เกิน 2 แสนเยน (ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเข้าเมือง มาตรา 75 ข้อ 3) และกรณีไม่แสดงบัตรคนต่างด้าว มีการกำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนเยน (ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเข้าเมือง มาตรา 75 ข้อ 2) ซึ่งเป็นโทษค่อนข้างหนักจึงจำเป็นจะต้องระมัดระวัง

翻訳(แปลโดย):鈴木秀明(ฮิเดอากิ ซูซูกิ)

Author

福島(Fukushima) 竜太(Ryuta)
福島(Fukushima) 竜太(Ryuta)入管手続専門行政書士(Certified Administrative Procedures Legal Specialists/Immigration Consultant)
aroi行政書士事務所 代表行政書士(東京都行政書士会所属)
アジアランゲージセンター(株) 代表取締役
群馬県渋川市出身
大東文化大学国際関係学部(タイ語選択)卒業後、タイ・バンコクに2年間駐在
日本語教師・日本語学校事務(留学ビザ手続担当)を経て2009年10月行政書士登録

コメントを残す

メールアドレスが公開されることはありません。 が付いている欄は必須項目です

CAPTCHA


このサイトはスパムを低減するために Akismet を使っています。コメントデータの処理方法の詳細はこちらをご覧ください