วีซ่า “เฉพาะกิจกรรมตามที่กำหนด (ดูแลบุพการีสูงอายุ)”
※特定活動ビザ(老親扶養)のタイ語訳です
คำขอของลูกค้าที่มาในวันนี้คือต้องการต่ออายุวีซ่า”เฉพาะกิจกรรมตามที่กำหนด”
วีซ่า “เฉพาะกิจกรรมตามที่กำหนด” นั้นมีหลายประเภทด้วยกัน คราวนี้ขอกล่าวถึงวีซ่าที่มักจะถูกเรียกว่า “ดูแลบุพการีสูงอายุ” หรือ “ารพาผู้ปกครองมา” สำหรับชาวต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่น แต่บุพการีผู้สูงอายุอยู่ที่ประเทศบ้านเกิดและคู่สมรสของบุพการีได้เสียชีวิตไปแล้ว บุพการีไม่มีบุตรคนอื่นหรือญาติคนอื่นที่จะคอยดูแลทำให้ไม่สามารถทิ้งบุพการีผู้สูงอายุเอาไว้คนเดียวที่ประเทศบ้านเกิดได้ วีซ่าที่กล่าวมานั้นจะเป็นวีซ่าที่ออกให้แก่บุพการีที่ตกอยู่ในกรณีข้างต้น
วีซ่า “เฉพาะกิจกรรมที่กำหนด” นี้ จะมีจุดประสงค์เพื่อดูแลบุพการีสูงอายุซึ่งจะเป็นวีซ่าที่ได้รับเป็นกรณียกเว้นประเภทหนึ่งหรือกล่าวได้ว่า【นอกเหนือจากประกาศ(ไม่ได้มีกำหนดโดยกฎหมาย)】คุณจะไม่สามารถยื่นคำร้องขอ “ใบรับรองสถานภาพการพำนัก(COE)” ได้ตั้งแต่แรก ดังนั้น “พการี” ที่ต้องการขอวีซ่าเข้าประเทศจะต้องขอวีซ่าพำนักระยะสั้นก่อนหลังจากได้เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นแล้วจึงไปยื่นเรื่องขอเปลี่ยนแปลงเป็น วีซ่า “เฉพาะกิจกรรมที่กำหนด” ที่กองตรวจคนเข้าเมือง
ลูกค้าที่มาวันนี้ เคยยื่นเรื่องขอทำการเปลี่ยนแปลงวีซ่าผ่านสำนักงานของผมได้สำเร็จในปีที่แล้ว
สำหรับวีซ่าที่กล่าวถึงนี้จะต้องผ่านข้อกำหนดอย่างน้อยดังต่อไปนี้
- อายุของบุพการีจะต้องมีอายุ 65ปี – มากกว่า 70 ปี
- ไม่มีคู่สมรสแล้ว
- ไม่มีบุตรคนอื่นๆนอกจากบุตรที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
- บุตร ที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น จะต้องมีรายได้มากพอในการใช้ดูแลบุพการี
คำถามที่มักจะพบบ่อยๆ 【บุพการี มีบุตรคนอื่นนอกเหนือจากบุตรที่อยู่ในญี่ปุ่นแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน และอาศัยอยู่ห่างไกลกันในประเทศบ้านเกิด】หรือ 【มีบุตรคนอื่นอีกที่อาศัยอยู่ต่างประเทศที่ไม่ใช่ประเทศญี่ปุ่น】 จึงอยากจะ เรียกให้บุพการี มาอยู่กับตัวเองที่ญี่ปุ่นจะได้ไหม?
ในกรณีแบบนี้ทางด้านประเทศญี่ปุ่นจะมีความคิดโดยพื้นฐานว่า
กรุณาให้บุตรที่อาศัยอยู่นอกประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ดูแลแทน
ถ้าให้เหตุผลว่า บุตรที่อยู่ในประเทศเดียวกัน ไม่มีงานไม่มีรายได้ ทางประเทศญี่ปุ่นจะแย้งว่า 【การดูแลทางด้านต่างๆให้บุตรคนอื่นดูแลแทนส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆกรุณาให้บุตรที่ ญี่ปุ่นเป็นคนส่งเสียไปให้ก็ได้】 ถึงแม้ว่าจะยังมีเหตุผลว่าลูกที่อาศัยอยู่ในประเทศเดียวกันกับบุพการีนั้นอาศัยห่างไกลกันมาก ทางประเทศญี่ปุ่นก็จะแย้งว่า 【ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องพามาอยู่ไกลจากประเทศบ้านเกิด การที่อยู่ในประเทศบ้านเกิดเดียวกับบุตรคนอื่นยังสามารถติดต่อสื่อสารกันด้วยภาษาเดียวกัน วัฒนธรรมการใช้ชีวิตก็เหมือนกันก็ควรจะให้บุตรที่อยู่ในประเทศเดียวกันเป็นผู้ดูแล】
ซึ่งฟังดูอาจจะทำให้รู้สึกว่าไม่มีความเมตตา
แต่ทางด้านประเทศญี่ปุ่นก็มีความคิดเห็นว่า【สำหรับคนที่ไม่เคยเสียภาษีหรือจ่ายเบี้ยประกันสังคมและ ไม่เคยมีส่วนร่วมสนับสนุนกิจกรรมต่างๆทางเศรษฐกิจใดๆในช่วงที่ทำงานได้ให้แก่ประเทศญี่ปุ่น แล้วจะมาที่ญี่ปุ่นเมื่อตอนแก่ตัว และมารับเอาผลประโยชน์จากประกันสังคมของญี่ปุ่นอย่างนั้นหรือ】
ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่การพิจารณาตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่ออนุมัติวีซ่านี้จึงเป็นไปอย่างเข้มงวด และจะอนุญาตให้ แก่ผู้ที่มีความจำเป็นจริงๆเท่านั้น
ผมเข้าใจดีว่าบุตรที่สามารถสร้างฐานะมีชีวิตที่มั่นคงในญี่ปุ่นได้แล้ว ต้องการเรียกพ่อหรือแม่ ให้มาอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันค่อนข้างเป็นไปได้ยาก ผมมักจะมีโอกาสให้คำปรึกษาในกรณีแบบนี้อยู่บ่อยๆ แต่ในประวัติการทำงานที่ผ่านมามีอยู่แค่ 2 ครั้งเท่านั้นที่ได้รับวีซ่าประเภทนี้
หมายเหตุ: วีซ่าประเภทนี้ไม่สามารถทำงานในประเทศญี่ปุ่นได้
翻訳(แปลโดย):ผุสดี ซูซูกิ
Author
-
aroi行政書士事務所 代表行政書士(東京都行政書士会所属)
アジアランゲージセンター(株) 代表取締役
群馬県渋川市出身
大東文化大学国際関係学部(タイ語選択)卒業後、タイ・バンコクに2年間駐在
日本語教師・日本語学校事務(留学ビザ手続担当)を経て2009年10月行政書士登録
最新の投稿
- 2023-08-29Blogภาษาไทยชะตาที่ดีใจ
- 2023-08-27業務日報的めも嬉しい縁
- 2023-08-22業務日報的めもタイ大使館内労働担当官事務所の契約書認証が、予想に反して早く終わった話
- 2023-08-14業務日報的めも国際行政書士実務マスター講座(2023年第四講義:日本人の配偶者等)登壇